อุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกได้ก้าวหน้าอย่างน่าประทับใจในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างแข็งขันผ่านการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยมลพิษต่ำ การผลิตเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการของการทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ และกระบวนการผลิตที่สะอาดขึ้นมาใช้ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตเหล็กสามารถผลิตเหล็กได้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ขับเคลื่อนการลดการปล่อยมลพิษ
ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ รวมถึงฝุ่นละอองที่มีประสิทธิภาพสูงถูกนำมาใช้ในโรงงานเหล็กยุคใหม่ เพื่อลดมลพิษให้ต่ำที่สุด เครื่องจักรจำนวนมากได้เปลี่ยนมาใช้เตาอาร์กไฟฟ้า (EAFs) ซึ่งทำงานด้วยเหล็กเศษและแหล่งพลังงานหมุนเวียน ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการปล่อยจากเตาหลอมแบบดั้งเดิมอย่างมาก นอกจากนี้ การตรวจสอบมลพิษแบบบูรณาการที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังช่วยให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว
ประโยชน์เชิงสิ่งแวดล้อมที่จับต้องได้
ผลลัพธ์ที่ได้จากกิจกรรมดังกล่าวมีความชัดเจน ดังนี้:
การปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) และไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ในหลายพื้นที่ที่ผลิตเหล็กลดลงมากกว่าร้อยละ 50
การปล่อยฝุ่นอนุภาค (PM) ลดลงร้อยละ 90 ด้วยโครงสร้างตัวกรองที่มีความซับซ้อน
โครงการนำร่องในการผลิตเหล็กจากไฮโดรเจน และโครงการนำร่องการจับคาร์บอน คือหนึ่งในวิธีการที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน
ความมุ่งมั่นของซานตงรุ่นไห่ในการแก้ปัญหาเหล็กที่ยั่งยืน
บริษัท ซานตงรุ่นไห่ สแตนเลสสตีล จำกัด เป็นผู้จัดหาหลักในฐานะผู้ให้บริการวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เหล็กกล้าไร้สนิม แผ่นเคลือบสังกะสี และแผ่นอลูมิเนียม ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากวัสดุดังกล่าวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เราดำเนินธุรกิจในภาคส่วนการก่อสร้าง ยานยนต์ และพลังงานสีเขียว โดยวัสดุที่เราผลิตมีการนำไปใช้ในโครงการก่อสร้าง โครงการเคมี โครงการเภสัชกรรม โครงการยานยนต์ และโครงการพลังงานสีเขียวทั่วประเทศ ภายใต้การกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมในระดับที่สูงขึ้น
อนาคตของการผลิตเหล็กสีเขียว
เมื่อรัฐบาลและองค์กรต่างให้ความสำคัญกับเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์มากขึ้น ภาคอุตสาหกรรมเหล็กจึงได้ลงทุนเงินจำนวนมากใน
เทคโนโลยีการลดธาตุเหล็กโดยตรง (DRI) ที่ใช้ไฮโดรเจน เทคโนโลยีการลดธาตุเหล็กโดยตรง (DRI) ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นหลัก
การใช้โลหะเศษเพิ่มมากขึ้น จะมีการเพิ่มการใช้โลหะเศษที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง
การจับเก็บ นำกลับมาใช้และกักเก็บคาร์บอน (CCUS)
สรุป
การเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยมลพิษต่ำสุดของอุตสาหกรรมเหล็ก ได้สร้างประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจโดยตรง การลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการบังคับใช้มาตรฐานที่เข้มงวด ทำให้ผู้ผลิตเหล็กแสดงให้เห็นแล้วว่าการทำลายสิ่งแวดล้อมกับอุตสาหกรรมหนักไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันไม่ได้ บริษัทต่างๆ เช่น Shandong Runhai ยังคงอยู่แนวหน้า จัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
อุตสาหกรรมเหล็กกำลังนำทางอุตสาหกรรมทั่วโลกในด้านความยั่งยืนด้วยการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม